สัตว์เลี้ยง
การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนบุตร: ความผูกพันที่มาพร้อมข้อจำกัดทางกฎหมาย
2025-07-10

ในยุคปัจจุบัน ทัศนคติของผู้คนที่มีต่อสัตว์เลี้ยงได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมที่เคยเลี้ยงเพื่อคลายเหงาหรือเป็นเพื่อน สู่การมองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว หลายคนถึงขั้นเลี้ยงดูประดุจบุตรในไส้ ปรากฏการณ์นี้รู้จักกันในชื่อ “Pet Humanization” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันอันลึกซึ้งที่เจ้าของมีต่อสัตว์เลี้ยงของตนเอง อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์อันอบอุ่นนี้กำลังจะเผชิญกับบททดสอบ เมื่อกรุงเทพมหานครเตรียมบังคับใช้ข้อบัญญัติควบคุมและปล่อยทิ้งสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้เลี้ยงที่มีสัตว์เลี้ยงเกินจำนวนที่กำหนดไว้

รองศาสตราจารย์ ดร. ศุทธิดา ชวนวัน นักวิจัยจากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ในวารสารประชากรและการพัฒนา โดยระบุว่า ในสังคมที่ประชากรวัยทำงานมีแนวโน้มครองตัวเป็นโสดมากขึ้น หรือเลือกที่จะไม่มีบุตรเนื่องจากความกังวลด้านค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ประกอบกับจำนวนผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สภาวะความโดดเดี่ยวและความเหงาจึงกลายเป็นปัญหาทางสังคมที่สำคัญ สัตว์เลี้ยงจึงเข้ามาเป็นคำตอบที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างทางอารมณ์เหล่านี้ ผู้คนพบว่าการมีสัตว์เลี้ยงช่วยบรรเทาความอ้างว้าง และสร้างความรู้สึกผูกพันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต

ความผูกพันที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้เจ้าของยินดีทุ่มเททั้งเงินทองและเวลาเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด การสำรวจโดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่ากว่า 49% ของกลุ่มตัวอย่างคนไทยในช่วงอายุ 24-41 ปี เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นบุตร และกว่า 39% พร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงโดยไม่จำกัด โดยค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นตามระดับความรู้สึกผูกพันที่เจ้าของมีต่อสัตว์เลี้ยงนั้นๆ

แม้ว่าปรากฏการณ์ “Pet Humanization” จะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของคนในสังคม ช่วยเติมเต็มความรู้สึกเหงาและสร้างเป้าหมายในชีวิต ทว่าในทางวิชาการด้านประชากรศาสตร์ การเลือกเลี้ยงสัตว์แทนการมีบุตรก็อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างประชากรในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดลงของอัตราการเกิดใหม่และจำนวนประชากรวัยทำงานของประเทศไทย

สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนบุตร ควรเตรียมความพร้อมสำหรับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมและปล่อยทิ้งสัตว์ พ.ศ. 2567 ที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงประมาณหกเดือน กฎหมายนี้อาจมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่อยู่อาศัย หากมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมากเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อาจเกิดความยุ่งยากและจำเป็นต้องย้ายสัตว์เลี้ยงออกไป ซึ่งอาจสร้างความลำบากใจและกระทบกระเทือนจิตใจของผู้เลี้ยงได้ไม่น้อย

การปรับตัวให้เข้ากับกฎหมายใหม่นี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์ในกรุงเทพฯ เพื่อให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้อย่างถูกต้องตามระเบียบ และหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่คาดฝันในอนาคต
คปภ. สั่ง KWI ประกันภัย เพิ่มทุนเร่งด่วน 30 ล้านบาท และระงับรับประกันภัยใหม่ชั่วคราว
2025-07-10

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ออกมาตรการที่เข้มงวดต่อบริษัทประกันภัย เคดับบลิวไอ โดยได้มีคำสั่งให้นายทะเบียนของบริษัทเร่งดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนให้ครบ 30 ล้านบาทภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมทั้งยืนยันคำสั่งเดิมที่ให้ระงับการรับประกันภัยใหม่เป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของผู้เอาประกันภัย

จากการรายงานของสำนักงาน คปภ. ชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการกำกับดูแลบริษัท เคดับบลิวไอ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) อย่างใกล้ชิด โดยก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม 2568 บริษัทได้รับคำสั่งให้ปรับปรุงฐานะทางการเงินและขีดความสามารถในการดำเนินงาน พร้อมกับหยุดการรับประกันภัยใหม่ชั่วคราว

ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีความคืบหน้าในการเจรจาประนอมหนี้ค่าสินไหมทดแทน และการพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อขายกิจการ รวมถึงมีแผนการระดมทุนเพิ่มอีก 30 ล้านบาท ซึ่งนายทะเบียนมองเห็นถึงความเป็นไปได้ที่บริษัทจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เผชิญอยู่ได้

ด้วยเหตุนี้ สำนักงาน คปภ. จึงได้ออกคำสั่งนายทะเบียนฉบับใหม่ที่ 28/2568 โดยมีข้อกำหนดหลักดังนี้: หนึ่ง บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำเป็นต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วอย่างเร่งด่วนไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ภายในกรกฎาคม 2568 ตามแผนที่ได้นำเสนอไว้ และต้องดำเนินการเพิ่มทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาสภาพคล่องจนกว่าการเจรจาซื้อขายกิจการจะสำเร็จลุล่วง สอง คำสั่งให้บริษัทหยุดรับประกันภัยใหม่ชั่วคราวตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 12/2568 ยังคงมีผลบังคับใช้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง เพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยทุกคน

สำนักงาน คปภ. ยืนยันว่ามาตรการเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความคุ้มครองหรือการชดเชยค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย สำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของตน สามารถติดต่อสอบถามหรือร้องเรียนได้ที่สายด่วน คปภ. หมายเลข 1186 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงาน คปภ. ซึ่งพร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

Ver más
ทิพยประกันภัย สืบสานพุทธศาสนา ถวายเทียนพรรษามหาจักรพรรดิ์ ปี 2568
2025-07-10

ในโอกาสสำคัญแห่งเทศกาลเข้าพรรษาประจำปี 2568 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์และสืบทอดพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง โดยคุณวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ นำกลุ่มจิตอาสา “หนุมานทิพยจิตอาสา” ร่วมกับกัลยาณมิตรธรรม จัดโครงการ “พลังบุญทิพยร่วมสร้าง ครั้งที่ 240” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายเทียนพรรษาองค์มหาจักรพรรดิอันยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นพุทธบูชา แด่พระพุทธศาสนา และน้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมถึงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

พิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้จัดขึ้น ณ สถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาสองแห่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ วิหารพระพุทธชินราช ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) และพระอุโบสถวัดนางพญา โดยเทียนพรรษามหาจักรพรรดิ์ที่ถวายในครั้งนี้มีความสูงถึง 180 เซนติเมตร แสดงถึงความตั้งใจและความศรัทธาอันแรงกล้าของผู้จัดและผู้เข้าร่วม

ภายในงานมีการประกอบพิธีทางศาสนาที่งดงาม โดยได้กราบนิมนต์พระเถรานุเถระมาเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ ยังมีการถวายจตุปัจจัยไทยธรรมและภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนในภูมิภาค แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทิพยประกันภัยในการสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาและสร้างสรรค์สังคมอย่างยั่งยืน

กิจกรรมครั้งนี้สะท้อนถึงการผนวกแนวคิดการทำความดีเข้ากับการดำเนินธุรกิจของทิพยประกันภัย ซึ่งไม่เพียงแต่ให้บริการด้านประกันภัยเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการตอบแทนสังคมและการรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทย

Ver más